Money Coach แรงบันดาลใจที่เริ่มให้คิดเรื่องออมเงิน
Money Coach แรงบันดาลใจที่เริ่มให้คิดเรื่องออมเงิน
ตั้งแต่ผมจบปริญญาตรีมาใหม่ๆ ผมเริ่มทำงานในปี 2550 เงินเดือนประมาณ 18,000 ซึ่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเพื่อนๆในรุ่นเดียวกัน จนในปัจจุบันผมผ่านงานมาหลายรูปแบบแต่สิ่งที่รู้แน่ๆเลยคือผมไม่มีเงินเก็บแม้แต่บาทเดียว!!!
เอ๊ะ!ทำไมเราถึงไม่มีเงินเก็บ
เมื่อนั่งย้อนหวนรำลึกถึงอดีต ก็พบว่า ตัวผมเองนั้นใช้เงินไม่เป็น ซึ่งการใช้เงินไม่เป็นในความหมายของผมคือใช้เงินไม่ก่อประโยชน์ กล่าวคือตัวผมเองนั้นเป็นพวกบ้าเทคโนโลยี ชอบเปลี่ยนมือถือ เปลี่ยนคอมพิวเตอร์ ใช้บัตรเครดิตเกินตัว ฯลฯ จนทำให้เงินที่หามาได้เอาไปใช้จ่ายกับของเล่นไฮเทคเหล่านั้นซะหมด นั่นแหละคือการใช้เงินโง่ๆในแบบฉบับของผม จนผมได้มาฟัง Audio Book เรื่อง Money Literacy ของคุณ จักรพงษ์ เมษพันธุ์ ฉายา The Money Coach ผมเลยเริ่มวางแผนที่จะออมเงินเพื่อตัวเองนับจากนั้นเป็นต้นมา...
เมื่อคิดได้สิ่งสำคัญคือการออมเงิน
แน่นอนครับ!!! ในวันนี้ผมคิดได้แล้วว่าในอดีตผมใช้เงินไม่เป็นประโยชน์ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำในวันนี้คือ เก็บเงิน เก็บเงิน และ เก็บเงิน (หรือที่เรียกว่าการออมเงินนั่นเอง)
โดยผมจะมีแนวทางในการเก็บเงินหรือออมเงินดังนี้ เมื่อถึงสิ้นเดือนผมจะคิดรายรับ - ค่าใช้จ่าย และดูว่าเงินเหลือเท่าไหร่? แล้วผมก็เอามาเก็บไว้ที่ กองทุน KFCASHPLUS เดือนละ 1,000 เดือนละ 2,000 ว่ากันไป โดยสะสมไปเรื่อยๆ ซึ่งเป้าหมายของผมคือ 200,000 บาท (ผมคิดจาก รายจ่ายx10)
จุดประสงค์เงินก้อนนี้คือเป็นเงินกันตาย เผื่อตกงาน เผื่อโดนไล่ออก ผมจะได้มีเงินประทังชีวิตสักระยะหนึ่ง (ในปัจจุบันก็ยังไม่ถึง 1 ส่วน 10 นะครับเพราะพึ่งลงมือทำ)
ทำไมต้องออมเงินในกองทุน?
กองทุน KFCASHPLUS ที่ผมพูดถึง คือกองทุนที่ลงทุนในตลาดเงินความเสี่ยงต่ำ เงินต้นไม่หาย และที่สำคัญดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ (เฉลี่ยประมาณ 1.5% ต่อปี) ซึ่งเพื่อนๆ อาจจะไม่ต้องทำตามผม ถ้ายังไม่มีความรู้ก็ออมไว้ใน ออมทรัพย์หรือฝากประจำ ไปก่อนก็ได้ครับ ซึ่งรายละเอียดเรื่องกองทุนผมจะขอเล่าในบทความต่อไป
ตั้งแต่ผมจบปริญญาตรีมาใหม่ๆ ผมเริ่มทำงานในปี 2550 เงินเดือนประมาณ 18,000 ซึ่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเพื่อนๆในรุ่นเดียวกัน จนในปัจจุบันผมผ่านงานมาหลายรูปแบบแต่สิ่งที่รู้แน่ๆเลยคือผมไม่มีเงินเก็บแม้แต่บาทเดียว!!!
เอ๊ะ!ทำไมเราถึงไม่มีเงินเก็บ
เมื่อนั่งย้อนหวนรำลึกถึงอดีต ก็พบว่า ตัวผมเองนั้นใช้เงินไม่เป็น ซึ่งการใช้เงินไม่เป็นในความหมายของผมคือใช้เงินไม่ก่อประโยชน์ กล่าวคือตัวผมเองนั้นเป็นพวกบ้าเทคโนโลยี ชอบเปลี่ยนมือถือ เปลี่ยนคอมพิวเตอร์ ใช้บัตรเครดิตเกินตัว ฯลฯ จนทำให้เงินที่หามาได้เอาไปใช้จ่ายกับของเล่นไฮเทคเหล่านั้นซะหมด นั่นแหละคือการใช้เงินโง่ๆในแบบฉบับของผม จนผมได้มาฟัง Audio Book เรื่อง Money Literacy ของคุณ จักรพงษ์ เมษพันธุ์ ฉายา The Money Coach ผมเลยเริ่มวางแผนที่จะออมเงินเพื่อตัวเองนับจากนั้นเป็นต้นมา...
เมื่อคิดได้สิ่งสำคัญคือการออมเงิน
แน่นอนครับ!!! ในวันนี้ผมคิดได้แล้วว่าในอดีตผมใช้เงินไม่เป็นประโยชน์ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำในวันนี้คือ เก็บเงิน เก็บเงิน และ เก็บเงิน (หรือที่เรียกว่าการออมเงินนั่นเอง)
โดยผมจะมีแนวทางในการเก็บเงินหรือออมเงินดังนี้ เมื่อถึงสิ้นเดือนผมจะคิดรายรับ - ค่าใช้จ่าย และดูว่าเงินเหลือเท่าไหร่? แล้วผมก็เอามาเก็บไว้ที่ กองทุน KFCASHPLUS เดือนละ 1,000 เดือนละ 2,000 ว่ากันไป โดยสะสมไปเรื่อยๆ ซึ่งเป้าหมายของผมคือ 200,000 บาท (ผมคิดจาก รายจ่ายx10)
จุดประสงค์เงินก้อนนี้คือเป็นเงินกันตาย เผื่อตกงาน เผื่อโดนไล่ออก ผมจะได้มีเงินประทังชีวิตสักระยะหนึ่ง (ในปัจจุบันก็ยังไม่ถึง 1 ส่วน 10 นะครับเพราะพึ่งลงมือทำ)
ทำไมต้องออมเงินในกองทุน?
กองทุน KFCASHPLUS ที่ผมพูดถึง คือกองทุนที่ลงทุนในตลาดเงินความเสี่ยงต่ำ เงินต้นไม่หาย และที่สำคัญดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ (เฉลี่ยประมาณ 1.5% ต่อปี) ซึ่งเพื่อนๆ อาจจะไม่ต้องทำตามผม ถ้ายังไม่มีความรู้ก็ออมไว้ใน ออมทรัพย์หรือฝากประจำ ไปก่อนก็ได้ครับ ซึ่งรายละเอียดเรื่องกองทุนผมจะขอเล่าในบทความต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น