บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2015

รีวิว....ไปดูดวงลายมือกับหมอพงษ์ จ.ขอนแก่น

รูปภาพ
รีวิว....ไปดูดวงลายมือกับหมอพงษ์ จ.ขอนแก่น ลายมือของผมที่ได้ปั๊มไว้เพื่อดูดวง โดยปกติแล้วผมเป็นคนที่ค่อนข้างชอบในเรื่องการดูดวงอยู่พอตัว หากได้ยินว่าที่ไหนแม่นที่ไหนดี หากผมว่างเว้นจากงานกะไปลองตามสันดานอยากรู้อยากเห็นอยากพิสูจน์ บ้างก็แม่น บ้างก็มั่ว จนมาวันที่ 5/9/2558 ผมได้ลองไปหาหมอดูที่ชื่อ "หมอพงษ์" ซึ่งแฟนผมเคยไปดูมาแล้วบอกว่าแม่นใช้ได้ ผมเลยตัดสินใจไป การดูดวงของที่นี่ก็เหมือนการดูดวงของที่อื่นๆ คือ มีการถามวันเดือนปีเกิด โดยให้เขียนวันเดือนปีเกิดในกระดาษที่เตรียมไว้ จากนั้นแกก็ไปเปิดตำราเขียนตัวเลขต่างๆนาๆ ซึ่งผมไม่รู้หรอกว่าตัวเลขเหล่านั้นมันแปลว่าอะไร? หลังจากนั้นก็จะเริ่มพิมพ์ลายมือ (ตามภาพด้านบน)  เมื่อถึงเวลาที่ดูดวงแกจะให้กระดาษ A4 มาไว้คอยจดสิ่งที่แกจะพูด โดยลักษณะการดูดวงของแกจะเป็นการดูดวงที่บอกถึงปัจจุบันและอนาคต โดยจะดูจากเส้นบนลายมือ โดยเรื่องที่ดูก็จะมีเรื่องครอบครัว หน้าที่การงาน ความรัก และโชคลาภและหลังจากนั้น ก็จะเห็นเซ็นต์ลายเซ็นต์ให้ดูและแนะนำว่าควรจะแก้ไขอย่างไร? ส่วนเรื่องค่าครูต่อการดู 1 ครั้ง 200 บาท (ใช้เวลาดูประมาณ 30 น

แนะนำ App บน iOS ที่ใช้จัดการกองทุน

รูปภาพ
วันนี้ผมจะมาพูดถึงแอพพลิเคชั่นที่ใช้จัดการกองทุนของผม นั่นคือแอพฯที่ชื่อว่า FIN ซึ่งสามารถหาดาวน์โหลดได้ที่ App Store บนระบบปฏิบัติการ iOS เท่านั้น หน้าตาแอพฯ FIN ตามวงกลม ก่อนหน้านี้ผมมีปัญหาว่าเวลาที่ผมซื้อกองทุนผมจะต้องมาคอยจดบันทึก ราคา NAV และจำนวนหน่วย เพื่อดูว่าตอนนี้ขาดทุนหรือได้กำไรเท่าไหร่แล้ว รวมถึงราคาเฉลี่ยว่า NAV ที่เฉลี่ยในพอร์ตของผม เพื่อวางแผนในการซื้อกองทุนครั้งต่อไป หน้าตาข้างในแอพฯ FIN รูปนี้แสดงหน้าตาของ Portfolio ส่วนตัวของผมเองที่ใช้ FIN จัดการคอย Tracking กองทุน ซึ่งผมมองว่ามันค่อนข้างสะดวกกว่าการจดบันทึกเอง และยังมีการแจ้งเตือนและอัพเดตกำไรขาดทุนๆวัน ซึ่งถือว่าดีมาก นอกจากนั้นเรายังสามารถดูข้อมูลของกองทุนทุกกองทุนในประเทศไทย โดยสามารถเลือกกลุ่มของกองทุนได้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นแอพฯที่ใช้งานได้ดีมาก สำหรับคนที่ลงทุนในกองทุน

Money Coach แรงบันดาลใจที่เริ่มให้คิดเรื่องออมเงิน

รูปภาพ
Money Coach แรงบันดาลใจที่เริ่มให้คิดเรื่องออมเงิน ตั้งแต่ผมจบปริญญาตรีมาใหม่ๆ ผมเริ่มทำงานในปี 2550 เงินเดือนประมาณ 18,000 ซึ่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเพื่อนๆในรุ่นเดียวกัน จนในปัจจุบันผมผ่านงานมาหลายรูปแบบแต่สิ่งที่รู้แน่ๆเลยคือผมไม่มีเงินเก็บแม้แต่บาทเดียว!!! เอ๊ะ!ทำไมเราถึงไม่มีเงินเก็บ เมื่อนั่งย้อนหวนรำลึกถึงอดีต ก็พบว่า ตัวผมเองนั้น ใช้เงินไม่เป็น ซึ่งการใช้เงินไม่เป็นในความหมายของผมคือใช้เงินไม่ก่อประโยชน์ กล่าวคือตัวผมเองนั้นเป็นพวกบ้าเทคโนโลยี ชอบเปลี่ยนมือถือ เปลี่ยนคอมพิวเตอร์ ใช้บัตรเครดิตเกินตัว ฯลฯ จนทำให้เงินที่หามาได้เอาไปใช้จ่ายกับของเล่นไฮเทคเหล่านั้นซะหมด นั่นแหละคือการใช้เงินโง่ๆในแบบฉบับของผม จนผมได้มาฟัง Audio Book เรื่อง Money Literacy ของคุณ จักรพงษ์ เมษพันธุ์ ฉายา The Money Coach ผมเลยเริ่มวางแผนที่จะออมเงินเพื่อตัวเองนับจากนั้นเป็นต้นมา... เมื่อคิดได้สิ่งสำคัญคือการออมเงิน แน่นอนครับ!!! ในวันนี้ผมคิดได้แล้วว่าในอดีตผมใช้เงินไม่เป็นประโยชน์ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำในวันนี้คือ เก็บเงิน เก็บเงิน และ เก็บเงิน (หรือที่เรียกว่าการออมเงินนั่นเอง)